เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์

เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ มีขนาดตัวปานกลาง รูปร่างป้อม ลักษณะหัวจะออกกลมและกว้าง หูมีขนาดเล็ก ตั้งห่างกัน ส่วนหน้าจะกลมแป้น ตาค่อนข้างกลมโตและมีสีโดดเด่นสะดุดตา ขาของแมวพันธุ์นี้สั้น ล่ำและแข็งแรง อุ้งเท้ามีลักษณะกลมและมีขนแทรกเพื่อกระจายน้ำหนักฝ่าเท้า หางสั้นและมีขนเป็นพวง ขนสั้น หนานุ่มและเงางาม มีขนชั้นในที่นุ่ม กระจุกแน่น แมวพันธุ์เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์มีสีและลายขนเหมือนกับแมวเปอร์เซีย และก็มีแบบลายจุดด้วย เพื่อปรับปรุงลักษณะโครงสร้างพื้นฐานของร่างกาย และเพื่อให้สีขนมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยนักผสมพันธุ์สัตว์ได้นำสีขนสีเงินของแมวพันธุ์เปอร์เซียเข้าไปผสมกับสีขนของแมวพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์  และในช่วงแรกของการผสมนี้ แมวพันธุ์เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ ยังไม่เป็นที่ยอมรับ และยังไม่เป็นนิยมจากผู้คนส่วนมาก

เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ ลักษณะนิสัย

เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ มีพื้นฐานนิสัยที่อ่อนโยนคล้ายกับพี่แมวขนยาวพันธุ์อื่น ๆ แต่ก็ไม่ได้ชอบความอึกทึกแบบเพื่อนแมวพันธุ์ขนสั้น  ผู้เลี้ยงสามารปล่อยแมวพันธุ์นี้ให้อยู่บ้านตามลำพังได้เพราะใช้ชีวิตแบบเงียบ ๆ ได้แมวพันธุ์เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ เป็นแมวขนาดกลาง หัวมีลักษณะกลมใหญ่, หน้าสั้นแบน มีแก้ม มีลักษณะคล้ายแมวพันธุ์เปอร์เซีย, คอสั้นและหนา, จมูกแบน สั้น สีดำ (Nose leather), ดวงตากลมใหญ่ ให้ความรู้สึกน่ารัก หูมีขนาดเล็ก ฐานหูไม่กว้าง แต่ส่วนปลายจะกว้างออกและเอียงไปข้างหน้า, ลำตัวเป็นกล้ามเนื้อแน่น (Good muscle tone), ขาสั้น หนา แข็งแรง, หางตรงและสั้นสมส่วนกับความยาวลำตัว

ลักษณะขนสั้น หนา เป็นมันวาว (Glossy) และสีขนของแมวพันธุ์นี้จะได้รับมาจากแมวพันธุ์เปอร์เซีย ซึ่งมีทั้งหมด 96 รูปแบบ โดยทุกรูปแบบจะต้องมีสีพื้นฐานเป็นส่วนประกอบอย่างน้อยหนึ่งสี เช่น สีดำ (Black), สีครีม (Cream), สีฟ้า (Blue), สีหิมาลายัน (Himalayan), สีกระดองเต่า (Tortoiseshell), หรือสีลายสลิด (Tabby) เป็นต้นแมวพันธุ์เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ มีความสูงมาตรฐานอยู่ที่ 10-12 นิ้ว หรือ 25.4-30.5 เซนติเมตร มีความยาวลำตัวมาตรฐานอยู่ที่ 1-1.5 นิ้ว หรือ 30.5-45.72 เซนติเมตร และมีน้ำหนักมาตรฐานอยู่ที่ 7-12 ปอนด์ หรือ 3-7 กิโลกรัม

ประวัติความเป็นมา

ถิ่นกำเนิด: อเมริกา/สหราชอาณาจักร

จริง ๆ แล้วเอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์คือแมวเปอร์เซียขนสั้น ทำให้ถูกรวมไว้ในกลุ่มแมวพันธุ์ขนยาวตามงานจัดแสดงแมวต่าง ๆ ในอเมริกามีการคัดเลือกสายพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์มาผสมกับแมวเปอร์เซียขนยาวทำให้ได้แมวที่มีลักษณะคล้ายแมวเปอร์เซียเกือบทุกอย่างแต่มีขนสั้น ในสหราชอาณาจักร ก็มีการผสมพันธุ์แมวบริติช ช็อตแฮร์กับแมวเปอร์เซียเช่นเดียวกัน แมวพันธุ์นี้มีขนยาวปานกลาง ดูแลรักษาความสะอาดง่าย มีสีและลวดลายที่หลากหลาย แมวเอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อทศวรรษ 1960 และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

แมวเอ็กโซติกขนสั้นจัดเป็นแมวขนสั้น ต้นกำเนิดของมันย้อนกลับไปในช่วงปลายทศวรรษ 1950 เมื่อผู้เพาะพันธุ์ (Fancier) เพาะพันธุ์แมวอเมริกันช็อตแฮร์พันธุ์แท้ (อเมริกันช็อตแฮร์) และแมวเปอร์เซีย (Persian cat) เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของร่างกายและทำให้สีขนสวยงาม พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ผสมสีเงินของแมวเปอร์เซียกับอเมริกันช็อตแฮร์ ในช่วงเริ่มต้นของการผสมพันธุ์ แมวเอ็กโซติกขนสั้นยังไม่ได้รับการยอมรับ แม้ว่าจะไม่ได้รับความนิยมในหมู่คนส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครพูดถึงและเริ่มหายไปจากประวัติศาสตร์ของสายพันธุ์แมว

ในปี 1967 แมวเอ็กโซติกขนสั้นได้รับความนิยมอีกครั้งเมื่อ Cat Fanciers Association (CFA) ในสหรัฐอเมริกาจัดว่าเป็นแมวเอ็กโซติก ส่งผลให้แมวขนสั้นเป็นที่หนึ่งในบรรดาแมวทุกสายพันธุ์ในการแข่งขันสายพันธุ์แมว นอกจากนี้ สมาคมยังระบุอีกว่าแมวเอ็กโซติกช็อตแฮร์เป็นแมวที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ สายพันธุ์แมวอเมริกันขนสั้นและแมวเปอร์เซียในปี 1979 สมาคมแมวนานาชาติ (TICA) ได้จดทะเบียนแมวเอ็กโซติก ช็อตแฮร์ เป็นแมวลูกผสมระหว่างทั้งสองสายพันธุ์

ในปี พ.ศ. 2530 CFA ได้เพิ่มสายพันธุ์เข้าไปในการผสมข้ามพันธุ์ มีลักษณะที่เหมาะสมสำหรับแมวเอ็กโซติกขนสั้น ได้แก่ การผสมพันธุ์แมวขนสั้นกับแมวอเมริกันขนสั้น และการเพาะพันธุ์แมวอเมริกันขนสั้น ผสมกับขนของแมวเปอร์เซีย ได้แก่ แมวเบอร์มีส ผสมกับอเมริกันช็อตแฮร์ หรือแมวพันธุ์รัสเซียนบลูผสมกับอเมริกันช็อตแฮร์ปัจจุบันแมวเอ็กโซติกช็อตแฮร์ได้รับการจดทะเบียนโดยสมาคมเพาะพันธุ์แมวทุกแห่ง รวมถึง CFA, TICA, American Cat Fanciers Association (ACFA) และ Fédération Internationale Féline (FIFe)

โรคทางสายพันธุ์

• โรคระบบประสาท เอ็กซ์โซติก ช็อตแฮร์
• โรควิตกกังวลในการแยกจากกันหรือเนื่องจากการบาดเจ็บทางจิตใจ (โรควิตกกังวลในการแยกจากกัน)
• โรคของระบบไหลเวียนโลหิตและหัวใจ
• โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ (hypertrophic cardiomyopathy: HCM)
• คาร์ดิโอไมโอแพทีแบบขยาย (DCM)
• โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
• ภาวะที่หลอดเลือดดำในตับตัดเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต (เปลี่ยนระบบไปรษณีย์ : PSS)
• โรคทางเดินปัสสาวะและไต
• โรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างของแมว (FLUTD)
• โรคไตถุงน้ำหลายใบ (PKD)
• โรคระบบทางเดินหายใจ
• โรคระบบทางเดินหายใจในสุนัขและแมวหน้าสั้น (brachycephalic syndrome)
• โรคของระบบโครงกระดูก ข้อต่อ และโครงสร้าง
• สะโพก dysplasia
• โรคเลือดและระบบภูมิคุ้มกัน
• isoerythrolysis ทารกแรกเกิด (NI หรือโรคดีซ่าน hemolytic)
• โรคตา
• ไม่มีเปลือกตาตั้งแต่แรกเกิด (eyelid agenesis)
• ต้อกระจก
• โรคตาเชอร์รี่
• กลิ้งออกจากเปลือกตา (lid ectropion)

บทความแนะนำ