ทำความรู้จัก บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) ว่ากันว่า British shorthair เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอังกฤษ ด้วยลักษณะเด่นที่มีขนหนานุ่มน่ากอด กับนิสัยเท่ๆ ถึงจะอยู่แบบเงียบๆ แต่ก็เข้ากับทุกคนได้ง่าย แถมยังเป็นมิตรอีกต่างหาก ถ้าใครกำลังมองหาเพื่อนแท้ซักตัวที่จะอยู่เคียงข้างแบบไม่กวนใจ มองมาทางนี้เลย น้องแมวบริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) รอที่จะครองใจคุณอยู่
บริติช ช็อตแฮร์ ลักษณะนิสัย
บริติช ช็อตแฮร์ นั้นน่ารัก เรียบร้อย และเข้ากับคนอื่นง่าย ทำให้น้องกลายเป็นแมวเลี้ยงที่ลงตัวมากสำหรับครอบครัว น้องแมวบริติช ช็อตแฮร์ สายพันธุ์ แมว ชอบที่จะเป็นรักและสนใจจากคนรอบข้าง แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องความสนใจจนมากเกินไป น้องมักชอบเดินตามเจ้าของไปรอบๆ บ้านแล้วนั่งลงข้างๆ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรบริติช ช็อตแฮร์ เป็นน้องแมวที่ค่อนข้างสงบเสงี่ยม ไม่ค่อยส่งเสียงดังหรือร้องเรียกในสิ่งใดใดที่ต้องการ น้องจะไม่ปีนขึ้นมานั่งบนตักขอให้คุณเกาคางให้แต่จะนั่งข้างๆ อีกอย่างคือเพียงแค่ลูบกันก็พอไม่ต้องอุ้มไปไหนมาไหนมากก็ได้
น้องแมวบริติช ช็อตแฮร์ เป็นแมวที่ต้องการกิจกรรมและออกกำลังกายในระดับปานกลาง แน่นอนว่าตอนยังเป็นเด็กน้องๆ จะมีพลังงานสูงมาก แต่ก็จะสงบลงเมื่อเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ แมวบริติช ช็อตแฮร์ ที่โตแล้วส่วนใหญ่เลือกที่จะนอนกลิ้งบนโซฟามากกว่าออกไปเล่นข้างนอก แต่ก็มีน้องแมวบางตัว (ส่วนใหญ่จะเป็นตัวผู้) British Shorthair ที่ยังชอบทำตัวโก๊ะเหมือนเด็กน้อยอยู่แมวบริติช ช็อตแฮร์ ไม่ค่อยมีชื่อเสียงในเรื่องของการทำลายข้างของและเฟอร์นิเจอร์ น้องๆ มักทำตัวเหมือนเป็นผู้ที่ได้รับการอบรมมารยาทมาอย่างดีแล้ว และพร้อมที่จะต้อนรับแขกที่มาบ้านด้วยความสุภาพอ่อนโยนแต่มั่นใจสมกับเป็นผู้ดีอังกฤษ
ประวัติความเป็นมา
ถิ่นกำเนิด: อังกฤษ
ประวัติและความเป็นมาของแมวบริติช ช็อตแฮร์หลายคนอาจไม่เคยสังเกต แต่คุณอาจจะเติบโตมากับแมวบริติช ช็อตแฮร์ ก็เป็นได้ น้องแมวสายพันธุ์นี้ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป แมวบริติช ช็อตแฮร์ ปรากฎอยู่ในนิทานและเรื่องเล่าของประเทศอังกฤษและยุโรปในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเหมียวแสนฉลาด Puss in Boots หรือเจ้าแมวยิ้มกว้าง Cheshire ใน Alice in Wonderland
ต้นกำเนิดของแมวสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) นี้ เชื่อกันว่ามาจากชาวโรมันโบราณที่ได้บุกมายึดครองประเทศอังกฤษและได้นำแมวบ้านสายพันธุ์อียิปต์มาเลี้ยง และเมื่อแมวเหล่านี้ผสมกับแมวป่าสายพันธุ์ยุโรปทั่วไปก็ทำให้ถือกำเนิดสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ด้วยการเพิ่มขึ้นของความนิยมในการเลี้ยงแมวในเกรทบริเตนช่วงยุควิคตอเรีย เหล่าผู้คลั่งไคล้แมวได้พยายามทำการปรับปรุงและสร้างมาตรฐานสายพันธุ์ให้กับแมวบริติช ช็อตแฮร์ ว่ากันว่าในงานแสดงโชว์แมวในช่วงแรกนั้น บริติช ช็อตแฮร์เป็นแมวเพียงสายพันธุ์เดียวที่ถือว่าเป็นพันธุ์แท้
สงครามโลกทั้งสองครั้งได้ลดจำนวนน้องแมวบริติช ช็อตแฮร์ สายพันธุ์ แมว ลงไปอย่างมาก หลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีแมวบริติช ช็อตแฮร์ เหลืออยู่เพียงน้อยนิด แต่ต้องขอบคุณความพยายามของเหล่านักเพาะพันธุ์และผู้ที่นิยมชมชอบในแมวบริติช ช็อตแฮร์ ที่ทำให้น้องแมวสายพันธุ์นี้กลับมาได้อีกครั้ง สมาคมสายพันธุ์แมวแห่งอเมริกา (American Cat Association) ได้รู้จักแมวบริติช ช็อตแฮร์ มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 แล้วแต่ยังไม่ทำการรับรองสายพันธุ์ให้จนกระทั้งปี ค.ศ.1980
ขนาดของแมวบริติช ช็อตแฮร์น้องแมวบริติช ช็อตแฮร์ ถือเป็นแมวขนาดกลางค่อนไปใหญ่ โดยเฉลี่ยน้ำหนักตัวอยู่ที่ 3.5 – 9 กิโลกรัม ความสูงเฉลี่ย 10-14 นิ้ว ความยาวเฉลี่ยอยูที่ 20 – 25 นิ้ว ใบหน้ากลมมีแก้มยุ้ยน่ารัก ในหูขนาดกลางค่อนข้างกลม ดวงตากลมโต รูปร่างกลมอกหนา มีขาที่แข็งแรงพร้อมอุ้งเท้ากลม หางที่หนาปลายมน ทำให้แมวบริติช ช็อตแฮร์ ดูไม่ต่างไปจากน้องตุ๊กตาน่ากอดดีดีนี่เอง
บริติช ช็อตแฮร์เป็นสายพันธุ์แมวที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยส่งเสียงร้อง สามารถเลี้ยงในคอนโดได้ แต่ที่อยากนำเสนอเป็นพิเศษคือน้องเป็นพันธุ์แมวที่น่ารักและขี้อ้อนมาก ๆ แถมใบหน้ายังกลมใหญ่ดูเป็นไอ้ต้าวอ้วน แต่จริง ๆ แล้วสายพันธุ์ของน้องเป็นสายพันธุ์แมวที่แข็งแรง มีกล้ามเนื้อเยอะเฉย ๆ โดยส่วนใหญ่สีที่คนนิยมเลี้ยงจะเป็นสีเทาหรือสีสวาด แต่คนในวงการแมวจะเรียกว่าสีบลู
แมวบริติชช็อตแฮร์เป็นแมวขนาดใหญ่ แต่ไม่ใหญ่เหมือนเมนคูนและแมวไซบีเรียน แมวตัวผู้บางตัวสามารถหนักได้ถึง 7.7 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียหนักได้สูงสุด 5.4 กิโลกรัม หรือน้อยกว่าแมวขนสั้นน่ารักนี้เป็นมิตรกับทุกคนในบ้าน และเหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก เพราะไม่ชอบใช้ความรุนแรง และไม่วิ่งกระโดดไปมาอย่างบ้าคลั่ง มีนิสัยที่ค่อนข้างสงบเงียบ และสามารถอยู่ในบ้านได้เกือบทุกขนาด รวมถึงคอนโดมิเนียม และอพาร์ตเมนต์ด้วย
The need-to-know
- บริติช ช็อตแฮร์ขี้เล่นขี้สงสัย
- เป็นมิตรแต่รักอิสระ
- แมวเงียบ
- รูปร่างใหญ่และตันกว่าปกติ
- ต้องดูแล/ตัดขนสัปดาห์ละครั้ง
- สายพันธุ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
- ต้องการพื้นที่นอกบ้านบ้าง
- อาจต้องทำความคุ้นเคยก่อนนำมาคลุกคลีกับลูก
บทความแนะนำ